ภาระกิจตามล่ากวางสำเร็จสมใจอยาก ได้ไปลูบไปคลำ ไปเกลือกกลิ้ง วิ่งเล่นแถมเดินตามหา วิ่งไล่จับกวางเรนเดียร์ฝูงใหญ่กับคนเลี้ยงกวางรอบป่าสนที่หมู่บ้านสุดท้ายทางเหนือสุดของมองโกเลีย หมู่บ้าน Ulaan uul soum เราไม่ต้องขี่ม้าฝ่าอากาศหนาวเย็นขึ้นไป แต่สามารถเอารถ4WD ตะลุยขึ้นไปได้เลย เนื่องจากเส้นทางจับตัวแข็ง ไม่เละเป็นโคลนจนต้องขี่ม้า ถึงแม้จะเสียดายมากๆที่ไม่ได่ขี่ม้าอย่างที่หวังในรอบนี้ แต่คิดว่าถ้าต้องขี่ม้าจริงๆคงหนาวตายทรมานก่อนได้เจอกวางเรนเดียร์
ผู้เลี้ยงเรนเดียร์หรือTsataan (Tsa ชื่อเรียกกวางเรนเดียร์ในภาษามองโกเลีย ผู้เลี้ยงกวางเรนเดียร์จึงมีชื่อเรียกว่า Tsataan) ปกติจะอยู่รวมเป็นกลุ่ม ซึ่งเป็นญาติกัน แต่ละบ้านจะมีกวางเรนเดียร์ที่รับผิดชอบดูแลหรือเป็นเจ้าของ แต่การเลี้ยงดูก็จะช่วยๆกัน
ชาว Tsataan จะนำกวางเรนเดียร์ไปปล่อยในป่าบริเวณที่มีอาหารสำหรับกวางคือหญ้ามอสซึ่งส่วนใหญ่จะมีมากในป่าสนไทก้า (Tajga)เพื่อให้กวางได้หาอาหารของมันเองตอนหลังอาหารเช้า และไปตามกลับในตอนบ่ายๆ หลังอาหารกลางวัน
เราไปถึงช่วงบ่ายเป็นช่วงเวลาหลังอาหารกลางวัน ได้เวลาที่ชาวบ้านกำลังจะไปตามกวางกลับบ้าน ฉันจึงขอตามป้าเจ้าของบ้านที่เราจะพักเข้าไปในป่าด้วย เพราะหลังจากนั่งรถมาหลายวัน อยากจะยืดเส้นยืดสาย ออกแรงบ้างทีแรกพวกป้าจะไม่ยอมให้ไป เพราะต้องเดินไกลทางไม่ดี ต้องลุยทุ่งหญ้า เดินในป่า ทางไม่เรียบ เลยต้องโชว์รูปงานวิ่งให้ดู ว่าสามารถทำได้
ต้นไม้ในป่าไทก้าเป็นต้นส้น (Larches) และต้นไม้ขึ้นเตี้ยๆ ป่าไทก้าเป็นป่าที่อยู่ในเขตภูมิอากาศหนาวเย็น แต่ไม่เย็นมากเท่ากับป่าทุนดรา (Tundra) รอบๆป่า ฉันมองเห็นภูเขาหิมะเป็นฉากหลังที่ยิ่งใหญ่สวยงามอยู่ไกลๆ ความเย็นบนเทือกเขานั้นทำให้ชาว Tsataan และฝูงกวางเรนเตียร์หลบหนีอากาศเย็นจัดนั้นลงมาอยู่บริเวณพื้นที่ด้านล่างนี้ เนื่องจากพอมีมอส มีหญ้าที่เป็นอาหารกวางได้ และจะกลับขึ้นไปอีกครั้งเมื่อฤดูร้อนมาเยือน
เราเดินออกหาตั้งแต่อากาศสดใสอบอุ่นจนอากาศเริ่มเย็นฟ้าจะเริ่มมืด ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่า ก็ยังไม่มีวี่แววของ กวางเรนเดียร์ ไม่รู้เพราะป้าตื่นเต้นกับแขกที่มาเยือน หรือกวางเรนเดียร์เกิดอยากจะเล่นซ่อนหาขึ้นมา เราเลยได้เดินอ้อมวงใหญ่ทั่วป่าแถบนั้น จนพวกป้าเธอเกรงใจจะส่งเรากลับมาก่อน แต่ฉันยืนยันว่ายังไปได้ แม้ว่าขาแทบจะพลิกและเพื่อนที่มาด้วยกันเริ่มเดินจนหอบแล้วก็ตาม

ป้าส่งเสียงร้องเรียกกวาง “วู้ วู้” และไปสมทบกับคนอื่นที่ออกมาช่วยหาจากทางอื่น ในที่สุดเราก็เจอกวางเรนเดียร์กลุ่มใหญ่ที่กำลังแทะเล็มมอสที่ขึ้นทั่วไปในพื้นป่าและตามต้นสน
เมื่อกลับมาถึงที่พัก เจ้าของกวางแต่ละคนก็มารับกวางและแยกย้ายกวางของตัวเองไปดูแล ซึ่งก็อยู่ใกล้ๆหลังบ้าน หลังเต้นท์กระโจม (Tipi) ของตนเพื่อป้องกันไม่ให้หมาป่าหรือหมีมาทำร้ายกินกวางของพวกเขา
เป็นกิจวัตรประจำของ Tsataan ที่ทำเช่นนี้ทุกวัน ช่วงเวลาที่เหลือก็จะตัดฟืน ซ่อมแซมข้าวของเครื่องใช้ ทำอาหาร
Tsataan เลี้ยงกวางเรนเดียร์เพื่อผลผลิตไม่ต่างจากการเลี้ยงแพะ แกะ ม้า หรือ Yak ของชนเผ่าเร่ร่อนกลุ่มอื่น คือเพื่อน้ำนมของมัน และเนื้อมาทำอาหาร แต่ส่วนใหญ่จะฆ่าเมื่อกวางเริ่มอ้วน แก่ตามอายุซึ่งจะมีอายุประมาณ 14-15 ปี ส่วนเขาของมันก็จะถูกตัดมาทำเครื่องประดับ ของที่ระลึกขายนักท่องเที่ยว
ฉันสังเกตุว่า Tsataan กลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิง เค้าบอกว่าผู้ชายออกไปล่าสัตว์บ้าง บางส่วนก็ไปทำงานในเมือง





















ก่อนเราออกมาพบกับเจ้าหน้าที่กำลังมาเก็บภาษีพอดี หัวหน้าใหญ่เลยเครียดนิดนึง
Leave a Reply