พระราชวังโปตาลา པོ་ཏ་ལ་ จากภาษาทิเบตแปลว่าสถานที่บริสุทธิ์ หรือแดนสวรรค์ ตั้งอยู่บนยอดเขาแดง เป็นอาคารลักษณะเหมือนป้อมปราการสูง 115.7 เมตร เป็นอาคารสูง 13 ชั้น กว้าง 400 เมตรจากทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตก และยาว 350 เมตรวัดจากทิศเหนือถึงทิศใต้ ประกอบด้วยอาคารหลัก 2 อาคาร คือ Red Palace และ White Palace ซึ่งมีทั้งสถานที่ประกอบพิธีกรรม พระราชวัง วัด สถูปเก็บพระศพ อารามที่พักของพระ จากอาคารพระราชวังสามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งหุบเขาลาซาด้านล่าง สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.637 โดยกษัตริย์ผู้รวบรวมทิเบต Songtsen Gampo พระราขวังนี้สร้างในช่วงเดียวกับวัดโจคัง และราโมเช่ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ทางพุทธศาสนาของทิเบต เพื่อเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่นำมาจากเนปาลและจีน อันเป็นสินสมรสจากเจ้าหญิงจากเนปาลและจีน ตั้งอยู่บนเขาแดง ใจกลางเมืองลาซา เพื่อกษัตริย์จะได้สามารถมองเห็นความเป็นไปในเมืองลาซาได้โดยรอบ
พระราชวังโปตาลาที่เห็นในปัจจุบันได้รับการต่อเติมสร้างขึ้นอีกครั้งในช่วงศตวรรษที่ 17 สมัยดาไลลามะองค์ที่ 5 ซึ่งได้นำลาซากลับมาเป็นเมืองหลวงอีกครั้งหลังจากเสื่อมสลายไปและอำนาจทั้งด้านศาสนาและการปกครองไปอยู่ในเมืองรอบๆที่ Sakya และ Shigatse โดยได้รับความช่วยเหลือจากมองโกล ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 50 ปี แล้วเสร็จเมื่อประมาณปี 1694 และถูกกำหนดให้เป็นศูนย์กลางด้านศาสนาและการปกครองของชาวพุทธทิเบต นิกายเกลุกปะ ซึ่งย้ายมาจากวัดเดรปรุง กำหนดให้เป็นพระราชวังฤดูหนาวขององค์ดาไดลามะ โดยอีกประมาณ 250 ปี ต่อมาได้ถูกยึดครองจากจีนในปี 1959
ปัจจุบันพระราขวังโปตาลาทำหน้าที่เหมือนกับพิพิธภัณฑ์ มีศิลปะวัตถุที่หาค่าไม่ได้ทั้งพระพุทธรูป คัมภีร์ พระสูตรต่างๆ ศิลปะ และภาพความเป็นอยู่ของลามะ พระทิเบต ไปจนถึงห้องพักของดาไลลามะในยุคที่ผ่านมา ถูกเก็บรักษาไว้ให้เข้าชม เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยว แต่ละวันจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยว ดังนั้นหากมาช่วงฤดูท่องเที่ยว (ประมาณสิงหาคม-ตุลาคม) จะต้องจองตั๋วล่วงหน้าก่อน 1 วัน นอกจากนี้ก็ยังมีผู้แสวงบุญชาวทิเบตจำนวนไม่น้อยที่ยังคงศรัทธาและมาเดินสวดมนต์ หมอบกราบตามประเพณีของชาวทิเบตรอบๆพระราชวังแห่งนี้


Leave a Reply