นอกจากเป็นประเทศเก่าแก่หนึ่งในโลก เอธิโอเปียยังมีส่วนเกี่ยวข้องในตำนานเรื่องราวของชาวยิวที่สำคัญ ณ เมืองอัคซุม อดีตอาณาจักรโบราณแถบทะเลแดงชื่อว่าอาณาจักรอักซุม (Axum Kingdom)
In This Post
หีบแห่งพันธสัญญาที่เมืองอักซุม เอธิโอเปีย
โบสถ์เล็กๆด้านหลังที่วางตัวอย่างเงียบสงบอยู่ด้านหลังโบสถ์ใหญ่ Church of Our Lady Mary of Zion เชื่อว่าเป็นสถานที่ที่เก็บซ่อนความลับที่ยิ่งใหญ่ของชาวยิว “หีบแห่งพันธสัญญา (the Ark of the Covenant)”

ฉันคุ้นเคยกับหีบแห่งพันธสัญญา เมื่อครั้งดูอินเดียน่า โจนส์ในหนังของสตีเวน สปีลเบิร์ก เพื่อแย่งชิงหีบศักดิ์สิทธิ์นี้กับบรรดานาซี เพราะเชื่อว่าผู้ครอบครองจะสามารถรบชนะในทุกสงคราม ติดตามเรื่องราวผจญภัยสุดขอบฟ้าก็ว่าสนุกแล้ว แต่ตำนานเรื่องราวเก่าแก่ของโลกอาหรับฝั่งเอธิโอเปียก็สนุกไม่แพ้กัน
ครั้งสมัยกษัตริย์โซโลมอน ผู้ชาญฉลาดชาวยิวได้ปกครองอิสราเอลจนเจริญรุ่งเรือง มีคนมากมายอยากทดสอบความเก่งกาจนั้นมากมายรวมทั้งราชินีแห่งชีบา ซึ่งปกครองทั้งอียิปต์ และเอธิโอเปีย ก็เดินทางมาพบเพื่อทดสอบความชาญฉลาดนั้นเช่นกัน แต่กลับมามีความสัมพันธ์กับกษัตริย์โซโลมอน ก่อนจะเดินทางกลับประเทศและประสูติพระโอรส คือจักรพรรดิเมเนลิกที่ 1 จักรพรรดิพระองค์แรกของดินแดนเอธิโอเปีย เมื่อเติบโตขึ้นก็ทรงได้กลับมาเยี่ยมพระบิดาคือกษัตริย์โซโลมอน ที่ดินแดนอิสราเอล แต่ขากลับไม่ได้กลับมือเปล่ากลับได้ “หีบแห่งพันธสัญญา” กลับมายังเอธิโอเปียด้วย ปัจจุบันเชื่อว่าหีบแห่งพันธสัญญาถูกเก็บไว้ที่โบสถ์เล็กในบริเวณของโบสถ์พระแม่มารีแห่งซีออน (Church of Our Lady Mary of Zion)
แต่เดิมหีบแห่งพันธสัญญาอยู่ในพื้นที่ของโบสถ์ Church of Our Lady Mary of Zion ซึ่งโบสถ์นี้อนุญาติให้เข้าได้เฉพาะผู้ชาย ดังนั้น Mary ซึ่งเป็นตัวแทนของหีบแห่งพันธสัญญา จึงเสมือนเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ (แต่ทำไมให้ Mary เป็นตัวแทนของหีบแห่งพันธสัญญาก็ไม่รู้แฮะ) โบสถ์เก่ามีความสำคัญสำหรับอาณาจักรเอธิโอเปียสมัยปกครองด้วยกษัตริย์ เมื่อขึ้นครองราชย์จะต้องมาทำพิธีกันที่นี่ เพราะมิเช่นนั้นจะไม่ถือว่ากษัตริย์องค์นั้นมีสิทธิเป็นผู้พิทักษ์หีบแห่งพันธสัญญา
ปี 1950 กษัตริย์ Haile Selassie ทรงสร้างโบสถ์ใหม่ขึ้นข้างๆโบสถ์เดิมและอนุญาติให้ผู้หญิงสามารถเข้าไปในโบสถ์นี้ได้ ส่วนหีบแห่งพันธสัญญาได้ถูกย้ายไปไว้ในโบสถ์เล็กข้างๆ (The Chapel of the Tablet) เนื่องจากความร้อนจากหีบทำให้เกิดรอยแตกบริเวณแท่นบูชา
ไม่มีใครได้รับอนุญาติให้เข้าไปภายในโบสถ์แห่งนั้นนอกจากนักบวชที่ยอมอุทิศตนเพื่อนเฝ้าสถานที่ศักดิ์สิทธ์ เขาจะต้องใช้ชีวิตและสาบานว่าจะไม่ออกมาอีกเลยตลอดชีวิต จึงไม่มีใครได้มีโอกาสได้เห็นว่าที่จริงแล้วมีหีบนั้นอยู่จริงหรือไม่ และมีลักษณะอย่างไร
ความเชื่อมโยงของอาณาจักรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหีบแห่งพันธสัญญา
จุดเริ่มต้นของหีบแห่งพันธสัญญา
หีบแห่งพันธสัญญามีที่มาหลายแห่งจากข้อมูลของ wikipedia
เรื่องของหีบถูกระบุว่า “หีบหุ้มด้วยทองคำทุกด้าน ภายในมีโถทองคำ ไม้เท้าของอาโรน และแผ่นศิลาจารึกพันธสัญญา” แต่บางบันทึกบอกว่ามีเพียงแผ่นศิลาจารึกจำนวนสองแผ่นเท่านั้น ตัวหีบถูกสร้างขึ้นตามแบบที่พระยาห์เวห์ทรงชี้แนะต่อโมเสสที่ภูเขาไซนาย ซึ่งสร้างขึ้นหลังจากชาวยิวได้อพยพจากอียิปต์หนึ่งปี หีบแห่งพันธสัญญานี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้แม่น้ำจอร์แดนแยกออกจากกันขณะที่ขบวนอพยพชาวยิวหนีออกจากอียิปต์ เพื่อมายังดินแดนแห่งพันธสัญญา

กษัตริย์โซโลมอนแห่งอิสราเอล
King Solomon แปลว่าความสงบ ในภาษาอิสลาม เรียกว่า สุไลมาน ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผู้ทรงปัญญาและเป็นกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในยุคนั้น (ประมาณ 970-931 ก่อนคริสตกาล) ทรงเป็นกษัตริย์องค์ที่ 3 แห่งอิสราเอล เป็นบุตรของกษัตริย์ดาวิด แต่เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของอาณาจักรอิสราเอล ก่อนที่จะแยกเป็นอาณาจักรเหนือ-ใต้ (อาณาจักรอิสราเอลเหนือ และอาณาจักรยูดาห์) ทรงเป็นผู้สร้างวิหารโซโลมอน ซึ่งเป็นวิหารแห่งเยรูซาเลมหลังแรก

อาณาจักชีบา
เป็นอาณาจักรโบราณซึ่งกินพื้นที่บริเวณเอธิโอเปียและเยเมนในปัจจุบัน ยุคสมัยของพระราชินีแห่งชีบามีความรุ่งเรืองมากปกครองไปจนถึงดินแดนอียิปต์ มีเมืองหลวงของอาณาจักรอยู่ที่เมืองอักซุม (Axum)


อาณาจักรอักซุม
อักซุมเปลี่ยนจากนับถือศาสนายิวมาสู่ศาสนาคริสต์ และเป็นศูนย์กลางของคริสต์ศาสนาในแอฟริกา
เมื่อกษัตริย์เมเนลิคที่ 1 ผู้นำหีบพันธสัญญามายังเอธิโอเปีย ดินแดนอัคซุม (Axum) ก็ได้รับอิทธิพลความเชื่อตามศาสนายิว จนกระทั่งประมาณศตวรรษที่ 4 ศาสนาคริสต์จึงเข้ามามีบทบาทโดยกษัตริย์ Ezana ตามหลักฐานจารึกการประกาศยอมรับศาสนาคริสต์ บนหินEzana

ก่อนศาสนายิว และศาสนาคริสต์เข้ามามีบทบาทในอาณาจักรอักซุม พวกเขามีวัฒนธรรมและความเชื่อเก่าแก่ดั้งเดิมคล้ายๆกับอียิปต์ซึ่งนิยมการก่อสร้างเสาหินเดี่ยว แบบเสาโอบิลิคส์ของอียิปต์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ฝังศพของชนชั้นสูง มีโลงศพและสิ่งของเครื่องใช้ไปฝังรวมไว้ด้านล่างของเสาหินนี้


อาณาจักอัคซุมมีช่วงเวลาที่เจริญรุ่งเรืองควบคุมเส้นทางการค้าจากยุโรปทางทะเลแดงเพื่อออกสู่ทะเลอาหรับ กินพื้นที่จากเอธิโอเปีย เยเมน ซูดาน และอียิปต์ การสิ้นสุดลงของอาณาจักรมีสาเหตุจากเส้นทางการค้าที่เปลี่ยนไป และอิทธิพลของศาสนาอิสลามที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในดินแดนคาบสมุทรอาหรับ อย่างไรก็ตามอัคซุมยังเป็นเมืองสำคัญของเอธิโอเปีย และคงความเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์จนถึงปัจจุบันนี้
ตำนานและเรื่องเล่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้คริสศาสนายังรุ่งเรืองในเอธิโอเปียซึ่งอยู่ในทวีปแอฟริกา ทำให้ฉันได้เห็นอีกหลายมุมในภาพวาดความเชื่อเช่นรูปนักบวชผิวดำ เทพผู้พิทักษ์ต่างๆ เป็นคริสตศาสนาที่ดูแปลกตากว่าที่เคยเห็น ภาพของชาวบ้านผิวดำชุดขาวสวดมนต์ในโบสถ์คริตส์ถือว่าค่อนข้างแปลกทีเดียวเมื่อเทียบกับความอลังการยิ่งใหญ่หรูหราของศาสนาคริสต์ในหลายพื้นที่ทั่วโลก
ร่องรอยของอาณาจักรโบราณอักซุม
Leave a Reply