พาเที่ยวไกลๆ หลายที่แล้ว วันนี้พาเที่ยวบ้านดีกว่า ตึกแดงค่ะ อยู่หน้าบ้านนี่เอง มีประวัติความเป็นมาร้อยกว่าปี แล้วนะคะ ตั้งแต่สมัยฝรั่งเศสยึดครองเมืองจันทบุรีเมื่อ ปี พ.ศ.2436 (ร.ศ.112) เพื่อเป็นประกัน ในกรณีพิพาทเรื่องดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง
ฝรั่งเศสกล่าวหาว่าไทยรุกล้ำเข้าไปในดินแดนอาณานิคมของฝรั่งเศส และทำร้ายเจ้าพนักงานฝรั่งเศส แต่ฝ่ายไทยได้แก้ว่าดินแดนนั้นเป็นของไทย เมื่อฝรั่งเศสบุกรุกเข้ามา ฝ่ายไทยก็ต้องขัดขวาง การโต้แย้งดังกล่าวไม่สามารถตกลงกันได้ ฝรั่งเศสจึงใช้อำนาจโดยส่งเรือรบเข้าไปในแม่น้ำเจ้าพระยา และปะทะกันด้วยอาวุธเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2436 ฝ่ายไทยเห็นว่าสู้ฝรั่งเศสในทางกำลังอาวุธไม่ได้ จึงขอเปิดการเจรจากับรัฐบาลฝรั่งเศสด้วยสันติวิธี
ฝรั่งเศสจึงยื่นคำขาดต่อไทย เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2436 รวม 6 ข้อ โดยสรุปคือให้ไทยยอมสละสิทธิดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงตลอดจนเกาะแก่งทั้งหลายในลำน้ำ พร้อมทั้งให้ไทยเสียเงินค่าปรับแก่ฝรั่งเศส จำนวน 2 ล้านฟรังก์ และเงินไทยอีก 3 ล้านบาท โดยในระหว่างนี้ฝรั่งเศสจะยึดเมืองจันทบุรีไว้เป็นประกัน
ในการยึดเมืองครั้งนั้นฝรั่งเศสได้ส่งกำลังทหารเข้ามายังจันทบุรีประมาณ 600 คนเศษ โดยเป็นทหารญวนจากไซง่อน และทหารชาวฝรั่งเศส แบ่งแยกกันอยู่ 2 แห่งคือ ป้อมปากน้ำแหลมสิงห์ โดยรื้อบริเวณป้อมพิฆาติปัจจามิตแล้วสร้างตึกแถวเป็นที่พักและกองบัญชาการเรียกว่า ตึกแดง และสร้างที่คุมขังนักโทษอีกแห่งหนึ่ง เรียกว่า คุกขี้ไก่
ส่วนอีกแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในเมืองจันทบุรี ในบริเวณที่เป็น “ค่ายทหาร” ปัจจุบันนี้
ไทยและฝรั่งเศสตกลงทำสัญญากันได้เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2446 โดยไทยยอมยกดินแดนตามที่ฝรั่งเศสต้องการ จากนั้นกองทหารฝรั่งเศสก็เริ่มถอนทหารออกจากจันทบุรี จนหมดสิ้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2447 เป็นเวลา 11 ปีที่ฝรั่งเศสยึดครองเมืองจันทบุรี
เพื่อป้องกันเมืองจันทบุรี จึงได้ย้ายเมืองจากบริเวณที่ลุ่มมาสร้างเมืองใหม่ที่ค่ายเนินวงศ์ อยู่ในเขตอำเภอท่าใหม่ปัจจุบันซึ่งเป็นที่สูงกว่า และสร้างป้อมสำหรับป้องกันเมืองทางฝั่งแหลมสิงห์ไว้ 2 ป้อม อยู่คนละฝั่งทะเล สมัยนั้นยังไม่มีชื่อจนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมาจึงได้ประทานชื่อให้ว่าป้อมไพรีพินาศ ซึ่งอยู่บนเขาแหลมสิงห์ และป้อมพิฆาตปัจจามิตร อยู่บนฝั่งบ้านปากน้ำแหลมสิงห์ ต่อมาป้อมนี้ถูกรื้อถอนเพื่อสร้างเป็นตึกแดง
สำหรับตึกแดงเคยเปิดเป็นห้องสมุด และเป็นที่ทำการศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ทำอะไร ปิดไว้เฉยๆ น่าจะทำเป็นพิพิธภัณฑ์ อย่างน้อยก็รวบรวมประวัติศาสตร์ของจันทบุรีในอดีตเพราะมีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดมากมาย
แต่เดิมการจะะมาเที่ยวชมตึกแดง แล้วไปดูป้อมไพรีพินาศ หรือชมทิวทัศน์บนเขาแหลมสิงห์ ต้องนั่งเรือ หรือขับรถอ้อมไปทางอำเภอท่าใหม่กว่า 60 กม.จึงจะถึงค่ะ ปัจจุบันนี้เราสามารถเข้าไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่กล่าวมาทั้งหมดได้สะดวกสบายแม้จะอยู่คนละฝั่งทะเล เพราะตอนนี้มีสะพานเชื่อมบริเวณปากน้ำแหลมสิงห์ ทั้งสองฝั่งด้วยกัน เส้นทางนี้เหมาะมากๆ สำหรับขี่จักรยานชมวิวทิวทัศน์ เลียบชายหาด ขึ้นเขา ลงเขาไปจนถึงหาดเจ้าหลาว แหลมเสด็จ และบริเวณใกล้ๆ ยังมีชายหาดสวยๆ อย่างอ่าวยาง อ่าวกระทิง เหมาะสำหรับเล่นน้ำ หรือมาปิคนิคกับครอบครัว
เมื่อวันที่ไปเดินเล่น ได้คุยกับเจ้าหน้าที่เค้ายังมีโครงการทำถนนขึ้นไปบนเขาแหลมสิงห์ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวในการมาเที่ยวชมแหลมสิงห์อีกทางหนึ่งด้วย แต่ถ้าใครชอบลุยๆ หน่อย เดินขึ้นเขานี้ก็ไม่ไกลนักนะคะ
In This Post
+ แผนที่และการเดินทาง
![]() ![]() ![]() |
: สะพานแหลมสิงห์ เชื่อมสองฝั่งให้เดินทางสะดวกสบายขึ้น |
![]() ![]() ![]() |
: การทำประมงเป็นอีกหนึ่งอาชีพของชาวบ้านที่นี่ค่ะ |
[…] อ่านรายละเอียดทางเดินเขาแหลมสิงห์ที่นี่ เที่ยวเขาแหลมสิงห์ […]