เราทิ้งปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับเอกสารที่หายไปไว้ที่สนามบิน Domodedovo หลังจากใช้ความพยายามกันพักใหญ่ เพื่อจะติดต่อกับจนท.สนามบินซึ่งมีน้องนักศึกษาแพทย์คนไทยช่วยเป็นล่ามสื่อสารให้ในระหว่างนั้น แต่ก็พบว่าคงไม่สามารถทำอะไรได้มากนักในเวลานี้ นอกจากทำใจ แล้วมาลุ้นตอนขาออกวันกลับอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าเอกสารที่หายไปคงไม่ทำให้รัสเซียอยากจะกักตัวเราไว้ที่นี่หรอกมั้ง !!
หลังจากเสียเวลากัน เรารีบลากกระเป๋าไปซื้อตั๋วขึ้นรถไฟ Aeroexpress เข้าเมืองแล้วไปลงที่สุดปลายทางของรถไฟด่วนสายนี้ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Paveletskaya เราปฏิบัติตามคำสั่งของการเดินทางไปยังที่พักที่จองไว้ก่อนมา ซึ่งบอกค่อนข้างละเอียดทีเดียว แต่สำหรับผู้มาใหม่อย่างเราก็ยังหลงงุนงงอยู่ดี สติเราทุกคนเริ่มกระเจิดกระเจิงตั้งแต่ซื้อตั๋วใบแรก ซึ่งข้อมูลที่เราต่างศึกษากันว่าพูดเป็นเสียงเดียวว่าให้ซื้อตั๋วแบบ 10 ใบ จะราคาถูกกว่า แต่ป้ายที่แปะไว้บนหน้ากระจกที่ขายตั๋วไม่มีเลข 10 เขียนไว้ซักกะแห่ง มีแต่แบบ 11 ใบ 320 รูเบิ้ล หารแล้วตกเที่ยวละ 29 กว่านิดๆ ไหงแพงกว่าซื้อตั๋วเที่ยวอีก เอ๊ะ!มันยังไงกัน อุปสรรคทางภาษาก็ได้เริ่มต้นจริงจังกันแถวๆนี้ ฉันเดินเข้าๆออกๆ เพื่อพยายามเจรจากับคนขายตั๋วก็ไม่ได้ผล สุดท้ายก็เลยซื้อแบบเที่ยวเดียว 28 รูเบิ้ล มาใช้ก่อน เพื่อจะได้รีบไปให้ถึงที่พักก่อนจะมืดไปมากกว่านี้



นั่งรถต่อไปอีก 3 สถานีไม่ใช่ปัญหา แต่พอลงมาคำสั่งจากที่พักบอกให้เดินขึ้นบันไดต่อไปอีก ผู้มาใหม่ทั้งสามมองซ้ายขวา แล้วพบว่าบันไดมีทั้ง 2 ข้าง ซ้ายขวา เอาไงดี ไปไหนดี หันซ้ายหันขวาทำหน้าเลิ่กลั่ก ก่อนจะมีชายหนุ่มมาสะกิดทักเป็นภาษาอังกฤษว่า “จะไปไหน” ฉันรีบส่ง iphone ที่จดวิธีการไปยังที่พักให้เค้าดู ในเวลานั้นเค้าดูส่องแสงเป็นประกายสำหรับเราในยามที่หลงอยู่กับคนรอบข้างที่เดินไปมาอย่างรวดเร็ว รีบร้อน และพูดภาษาต่างดาวกันไม่รู้เรื่อง ชายหนุ่มชี้ทางสว่างให้กับเรา แล้วอธิบายนิดหน่อยเกี่ยวกับสถานีรถไฟที่นี่ว่ามีหลายชั้น แต่ละชั้นมีทางออกแต่ไม่เหมือนกัน ส่วนของเราจะออกไปเดินข้างนอกตรงป้ายทางออกนี้แล้วเดินไปที่พักก็ได้ แต่ถ้าไปตามแผนที่ก็คือเดินข้างในเชื่อมสถานีเป็นชั้นๆ แล้วออกทางออกที่ใกล้หน่อย คำอธิบายมาพร้อมกับสถานที่จริงค่อยเห็นภาพและเข้าใจมากขึ้นกับสถานีและที่ทางที่นี่
เราเดินไปตามทางที่เค้าชี้ไป ซึ่งก็เดินตามเค้าไปนั่นเอง ฉันพบว่าเค้ามากับเพื่อนหญิงที่ส่งยิ้มมาให้ทางเราเช่นกัน และคุยกันนิดหน่อย เค้าถามว่าเราอยู่กันกี่วัน พอบอกว่า 3 วันในมอสโคว์ เค้าสองคนทำท่าตกใจและบอกว่าน้อยไป มอสโคว์มีที่ให้เที่ยวชมเยอะ น่าจะอยู่ซัก 10 วัน เค้าแยกออกไปก่อน และชี้บันไดเลื่อนอันถัดมาที่เราต้องขึ้นไปต่อให้กับเรา ท่ามกลางความวุ่นวาย และคำเตือนเรื่องความไม่น่าไว้วางใจของคนรัสเซีย แต่วันแรกที่มาถึงกลับได้พบความใจดี มีน้ำใจ ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีทีเดียวสำหรับพวกเรา
จากความวุ่นวายที่ผู้คนมากมายเดินฉับ ฉับ กันอย่างรวดเร็ว คิดว่าช่วงนี้น่าจะเป็นเวลา Rush hour ของเค้าพอดี เวลานี้คนก็เลยเยอะเป็นพิเศษ แต่เมื่อโผล่พ้นออกจากสถานี เราก็มายืนอยู่ในเมืองใหญ่แล้ว ถนนตรงหน้ากว้าง 8 เลน ตึกใหญ่สองข้างทางที่ดูแล้วน่าจะเป็นสำนักงาน ร้านหรูหราใหญ่โตที่ขายของตอนกลางวันปิด แต่ร้านอาหาร คาเฟ่ยังคึกคัก แต่ไม่ครึกโครม ผู้คนเดินกันบางตาลงเมื่อเทียบกับเมืองใต้ดินข้างล่าง
ฉันและเพื่อนๆเดินต่อไปตามคำสั่ง ฉันค่อยๆปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตามแผนที่เพราะพบว่าเค้าเขียนได้ค่อนข้างละเอียดเมื่อเทียบกับตอนที่เราต้องเดินขึ้นบันไดเลื่อนกี่ครั้ง มาโผล่ตรงไหน เพียงแต่ปัญหาของเราคือเป็นผู้มาใหม่ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจบ้านเมืองเค้ามากนักเอง ดังนั้นตอนที่เดินหาที่พักฉันจึงค่อยๆเดิน ค่อยๆข้ามแยกตามที่แผนที่สั่งให้ปฏิบัติ แต่เมื่อถึงจุดหมายก็พบว่า หลงอยู่ดี Ivan Hostel ของฉันหายไปไหน ประตูที่จะต้องกดกริ่งเพื่อขึ้นไปล่ะ
เราพยายามคว้าคนที่เดินผ่านไปมา มาสอบถามบางคนช่วยดูให้แต่ก็ไม่รู้จัก หลายครั้งแล้วที่ฉันพบว่าเป็นเรื่องปกติมากที่คนพื้นที่จะไม่ค่อยรู้จักตึก หรือห้องที่มาดัดแปลงเป็นที่พัก หรือ Hostel สำหรับชาวต่างชาติ แม้สถานที่ที่มาจะได้รับการแนะนำในหมู่นักท่องเที่ยว จนขึ้นอันดับใน lonely planet คู่มือนักท่องเที่ยวอันดับหนึ่ง และโชคก็ยังคงอยู่ข้างพวกเราเมื่อชายที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ใกล้ๆ เดินเข้ามาและช่วยดูที่อยู่ให้ เขาหันซ้าย หันขวาแล้วชี้ไปที่ตึกที่เราเดินผ่านมาว่านี่คือตึกที่เรากำลังหา แม้เค้าจะไม่รู้ว่ามีโรงแรมอยู่ที่นี่ก็ตาม แต่ยืนยันว่าคือตึกนี้แหละ จากนั้นก็เดินจากไป
ป้ายชื่อโรงแรมเล็กๆ ติดอยู่ข้างๆ ทำให้แน่ใจได้ว่าเรามาถึงจุดหมายในวันนี้แล้ว ซึ่งอยู่โน่นชั้น 3 Backpackers มือสมัครเล่นก็ต้องแบกกันต่อไป เราเช็คอิน เข้าที่พักซึ่งดูสะอาดสะอ้าน สมกับที่ได้การันตีเรทคะแนนสูงๆ ที่ฉันเลือกมา
วันนี้เหนื่อยและเพลียกับการเดินทาง ต่างคนต่างรีบอาบน้ำเข้านอน แต่ก็ยังไม่วายหันมาคุยกันถึงภาพที่ผ่านตาในวันแรกที่รัสเซีย ผู้คนเค้าดูเฉยๆ จริงจัง ไม่ยิ้มแย้ม ภาษารัสเซียที่ไม่คุ้นเคย คุ้นตา สถานีรถไฟก็ลึกจริงๆ มีหลายชั้น จนเราต้องขึ้นบันไดเลื่อนที่ยาวแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน และความประทับใจเล็กๆน้อยๆ ที่เราได้รับจากคนรัสเซียตลอดทางวันแรกที่นี่ เหมือนกับว่ารัสเซียเค้าส่งเจ้าหน้าที่มาคอยต้อนรับดูแลพวกเรากันทีเดียว
แนะนำ app จาก iphone สำหรับผู้ที่สนใจจะเดินทางเที่ยวรัสเซียด้วยตนเอง
Yandex.Metro เป็นapp ที่บอกเส้นทางรถไฟใต้ดินทั้งในมอสโคว์และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มีทั้งภาษารัสเซีย และภาษาอังกฤษ พร้อมเส้นทาง
Ivan Hostel โฮสเทลเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจาก Red Square สะอาดและเป็นกันเองดีค่ะ
Leave a Reply