นอกจากทะเลสาบพันกอง (Pangong Tso) ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของวันนี้แล้ว
บนเส้นทางที่เราจะไปเยือนยังมีความสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ
เนื่องจากเราจะต้องวิ่งผ่านบนถนนเส้นที่สูงเป็นอันดับสามของโลก
จากที่ราบในเลห์ เราผ่านทิวเขาแห้งแล้ง หลากสี
อันเนื่องมาจากแสงแดดที่ทะลุผ่านเมฆหมอก
กลายเป็นแสงรำไร เมื่อกระทบกับทิวเขาใหญ่ที่ห้อมล้อมเมืองเลห์ไว้เบื้องล่าง
ความกลัวกลายเป็นความเคยชินกับถนนหนทางที่ลัดเลาะไต่หน้าผาสูงชัน
โดยปกติเราเคยชินกับการขับรถว่าห้ามแซงทางโค้ง
ซึ่งคงใช้ไม่ได้กับเส้นทางแคบๆ ที่ไต่เป็นวนลูปขึ้นไปด้านบน
เนื่องจากช่วงทางโค้ง เป็นช่วงถนนที่กว้างกว่าเส้นทางตรง
เมื่อผ่านเมฆหมอกยามเช้า และเราเริ่มขึ้นไปสูงขึ้นเรื่อยๆ
จะพบกับยอดเขาหิมะที่เราเห็นไกลลิบๆ เมื่อตอนเริ่มสตาร์ทออกมา
ตอนนี้เรามาอยู่บริเวณถนนที่สูงเป็นอันดับสามของโลกแล้ว
ที่ Chang La มีความสูง 5,360 เมตร(17586 ฟุต)
เราได้ชาร้อนๆ กับขนมอร่อยๆ
จากแคมป์ทหารที่จัดไว้บริการนักท่องเที่ยว
ก่อนจะเดินทางต่อไปพบกับความงดงามของทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์แห่งลาดักค์
ทะเลสาบพันกองเป็นทะเลสาบน้ำเค็ม สีน้ำเงินเข้ม
ห้อมล้อมไปด้วยเทือกเขาคาราโครัม มีความยาวกว่า 130 กม.
กินพื้นที่เข้าไปถึงเขตทิเบตของจีน
บริเวณทะเลสาบลมค่อนข้างแรง และด้วยความสูง
ยิ่งทำให้อากาศบนนี้หนาวเย็นมากๆ
แต่ทิวทัศน์งดงามซึ่งเป็นภาพหนึ่งที่ทำให้หลายคนอยากมาเยือนดินแดนห่างไกลนี้
นับเป็นความคุ้มค่ากับการได้มายืนสัมผัส อากาศบริสุทธิ์
และความงดงามที่นี่
เนื่องจากที่นี่นับเป็นเขตพรมแดนทางธรรมชาติของอินเดียและจีน
การเดินทางมายังทะเลสาบพันกอง จึงต้องมีใบอนุญาติ (permit)
ซึ่งสามารถติดต่อทำได้ตามเอเย่นต์ท่องเที่ยวในเลห์ได้ทั่วไป
คนละ 120 รูปี (ราคานี้รวมใบ permit ไป Nubra Valley ด้วย)
เมื่อมาถึงทะเลสาบพันกอง ให้เลยต่อไปอีกนิดจนถึง Spangmik Valley
จะได้เห็นทะเลสาบได้ไกลและสวยงามมากขึ้น
นักท่องเที่ยวบางคนมากางเต้นท์ หรือพักกันที่นี่
แต่พวกเราเดินทางแบบ one-day Trip
กลับเมืองเลห์ในตอนเย็น เพื่อช้อปปิ้งกันต่อค่ะ
Leave a Reply